ในบทความนี้ก็จะมาแนะนำน ถึงรายละเอียดคร่าวๆ ของวิชาทางด้านการโรงแรม และการท่องเที่ยว ว่ามีสายใดบ้าง จบแล้วจะได้ทำงานอะไรได้บ้าง และมีโอกาสก้าวหน้าทางหน้าที่การงานอย่างไรบ้าง ซึ่งจะขออนุญาต ใช้หลักสูตรของสถาบัน I-TIM เป็นหลัก เนื่องจากเป็นหลักสูตรที่ใกล้เคียงกับการเรียนด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวในต่างประเทศครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันเลยค่ะ
แผนกแรกซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากก็คือ
แผนกครัว (Kitchen Operations)
ในแผนกครัวของสถาบัน I-TIM น้องๆ จะได้เรียนรู้ และลงมือปฏิบัติ เกี่ยวกับการทำอาหารยุโรปในทุกๆ ส่วนอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน จนถึงระดับสูง ทั้งในส่วนของครัวร้อน ครัวเย็น และเบเกอรี่ โดยน้องๆ จะได้ลงมือทำจริงในทุกๆ ส่วน ตั้งแต่การจัดเตรียมอาหารยุโรปชนิดต่างๆ การจัดทำเมนูอาหาร การจัดรูปแบบการนำเสนอ ฯลฯ เมื่อเข้าใจถึงภาคปฏิบัติทั้งหมดแล้ว น้องๆ ยังจะได้เรียนรู้ในส่วนของการบริหารจัดการด้านอาหาร และโภชนาการอีกด้วย ซึ่งจะสอนเกี่ยวกับทักษะ และกรรมวิธีในการประกอบอาหารอย่างถูกต้อง เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารในอุตสาหกรรมโรงแรมอย่างกว้างขวาง หลักโภชนาการ หลักการจัดเก็บควบคุมสโตร์ กรรมวิธีในการเตรียมก่อนปรุงอาหาร คำศัพท์ต่างๆ ที่ใช้ในแผนกครัว โครงสร้างองค์กร เมนูพื้นฐาน เช่น เมนูอาหารประเภทเรียกน้ำย่อย สลัดประเภทต่างๆ ซุปประเภทต่างๆ เครื่องปรุงชนิดต่างๆ และการสาธิตการประกอบอาหารจานหลักชนิดต่างๆ ที่เป็นที่นิยม
ขึ้นอยู่กับขนาดของครัวและขนาดของโรงแรมซึ่งแตกต่างกัน กับขึ้นอยู่กับเครือข่ายโรงแรม
(Hotel chain) ที่บริหารโรงแรมแต่ละแห่งว่ามาจากสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส หรือฮ่องกง ซึ่งนิยมใช้ไม่เหมือนกันอีกด้วย
โดยส่วนใหญ่นักศึกษาที่จบจากสถาบัน I-TIM ก็จะได้เริ่มงานในสายครัวในตำแหน่งผู้ช่วยกุ๊ก หรือ คอมมีเชฟ เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานในสายงานครัวมามากกว่านักศึกษาจากสถาบันด้านการโรงแรมอื่นๆ และเมื่อทำงานนานขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น ก็จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปตามลำดับชั้นของตำแหน่งในครัว
แผนกที่สองคือ
การบริการในภัตตาคาร (Restaurant Service)
ซึ่งในแผนกนี้จะรวมถึงแผนกการผสมเครื่องดื่มด้วยครับ เพราะแผนกในโรงแรม จะรวมกันเป็น Food & Beverage (อาหารและเครื่องดื่ม) ค่ะ
การบริการในภัตตาคาร (Restaurant Service)
ซึ่งในแผนกนี้จะรวมถึงแผนกการผสมเครื่องดื่มด้วยครับ เพราะแผนกในโรงแรม จะรวมกันเป็น Food & Beverage (อาหารและเครื่องดื่ม) ค่ะ
| ||||
| ||
|
นอกจากนี้ยังมีแผนกที่ในโรงแรมส่วนใหญ่จะแยกออกมาจากแผนกอาหารและเครื่องดื่ม
นั่นคือ แผนกจัดเลี้ยง (The Catering Department)
แม้ว่างานของแผนกจัดเลี้ยงจะเป็นเรื่องบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มเหมือนกับ แผนกอาหารและเครื่องดื่ม แต่ลักษณะของการทำงานมีส่วนแตกต่างกันอยู่ โดยแผนกอา หารและเครื่องดื่มจะดูแลห้องอาหารซึ่งเป็นการบริการแขกกลุ่มย่อยๆ ในขณะที่แผนกจัด เลี้ยงจะต้องเตรียมการและบริการคนครั้งละมากๆ จึงจำเป็นต้องให้การทำงานมีความคล่อง ตัว โรงแรมใหญ่ๆ โดยเฉพาะประเภทที่มีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่และหลายห้องส่วนใหญ่ จึงมักแยกแผนกจัดเลี้ยงออกเป็นอีกแผนกหนึ่งต่างหากจากแผนกอาหารและเครื่องดื่มใน งานสายนี้น้องๆ จะได้พบปะผู้คนใหม่ๆ อยู่เสมอ ได้พัฒนาทักษะทางภาษา ได้เรียนรู้ทัก ษะการให้บริการอย่างมืออาชีพ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และทักษะในการสร้างความประ ทับใจ สำหรับการเสริฟอาหารแต่ละมื้อให้กับแขกอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ถึง วัฒนธรรมในการรับประทานอาหาร และความต้องการที่แตกต่างกัน ของแต่ละชนชาติอีก ด้วย
| ||
แผนกต้อนรับ หรือ สำนักงานส่วนหน้านั้นอาจเปรียบได้กับศูนย์รวมเส้นประสาท
(nerve center)
หรือศูนย์ประสานงานของโรงแรมทีเดียว และมีบทบาทอย่างสำคัญยิ่งในการติดต่อประสาน
งานกับแผนกอื่นๆในโรงแรม ตัวอย่างเช่น ถ้าแขกมาบ่นหรือต่อว่า (หรือชมเชย) ที่แผนกต้อน
รับ พนักงานต้อนรับจำเป็นต้องรีบส่งข่าวให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบโดยเร็วที่สุดเท่า
ที่จะเป็นไปได้
ในแผนกนี้สถาบัน I-TIM จะสอนให้เรียนรู้ขั้นตอน และระบบงานของงานฝ่ายต้อนรับ ส่วนหน้าเริ่มต้นจากกระบวนการรับจองห้องพัก จนถึงขั้นตอนวิธีการชำระเงินเมื่อแขกออก จากโรงแรม วิชานี้ยังครอบคลุมถึงส่วนประกอบต่างๆ และการตรวจสอบประสิทธิภาพของการ บริหารจัดการงานส่วนหน้า ตลอดจนการวางแผน การบริหารงานบุคคล การประเมินผล การทำ งานเป็นทีม และหลักการบริหารจัดการงานทั้งระบบในธุรกิจโรงแรม |
![]() ![]() |
การฝึกพนักงานต้อนรับ |
สำหรับงานในสายนี้ก็จะมีในส่วนของ
2. พนักงานต้อนรับ (Reception)
3. พนักงานรับโทรศัพท์ (Telephone หรือ Telephone
4. เจ้าหน้าที่สำรองห้องพัก (Reservations Clerk)
5. พนักงานแคชเชียร์ (Cashier)
บุคลากรที่ทำงานในส่วนนี้ ยังต้องสามารถให้ข้อมูล
ทั่วๆ ไปเกี่ยวกับโรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยว หรือสิ่งอำนวย
ความสะดวกใกล้เคียงแก่แขกได้อีกด้วย หรือทำหน้าที่เป็น
guest relation serviceเช่นให้ข้อมูลข่าวสารอื่นๆ การนำเสนอ
ห้องพักให้แขก นอกจากนี้ยังต้องทำหน้าที่ในการเจรจาต่อรอง
กับแขกเพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้กับโรงแรม ต้องเรียนรู้
การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า งานในส่วนนี้จะสนุก และท้าทาย
ที่ได้เจอกับสถานการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ได้พบกับคนหลาย
รูปแบบ และยังได้รับความรู้ในด้านการบริหารจัดการ และยัง
มีความโดดเด่นในเรื่องการพัฒนาทักษะทางภาษาอีกด้วย
แผนกแม่บ้าน (Housekeeping) ในส่วนนี้ จะสอนเกี่ยวกับภาคปฏิบัติการในห้องพักแขก ซึ่งสถาบัน I-TIM จะมีห้องจำ ลองของโรงแรมระดับ 5 ดาวให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติ ห้องซักรีดและพื้นที่สาธารณะในโรงแรม น้องๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำเตียง การปูเตียง การดูแลรักษาพรม ห้องน้ำ ขั้นตอนในการ ตรวจเช็คห้องพักแขก และการบริการในส่วนของพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังจะได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการดูแลรักษาพื้นผิวประเภทต่างๆ การใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง และการใช้ เครื่องมือประเภทต่างๆ อย่างถูกวิธี ตลอดจนการทำความสะอาดพื้นที่นอกตัวอาคารนอก จากนี้ ยังจะได้เพิ่มพูนประสบการณ์ จากการซักรีดชุดปฏิบัติการของแผนกครัวและส่วนบริการ ภัตตาคาร ตลอดจนถึงศิลปะในการจัดดอกไม้ อีกด้วย
| ||||||
จะมีกรรมอยู่สักหน่อย ตรงที่แขกมักจะคิดว่าการที่พักห้องสะอาดทางเดินและบริเวณใช้ร่วม
ต่างๆในโรงแรมสะอาด ตลอดจนผ้าปูที่นอน / ปลอกหมอนสะอาดเป็นของธรรมดา คือไม่
ค่อยได้สังเกตหรือชมเชย แต่ถ้าเกิดความไม่สะอาดขึ้นมาเมื่อใด แขกจะสังเกตเห็นทันที
และจะตำหนิหรือต่อว่าเช่น ห้องพักไม่สะอาด ผ้าปูที่นอนไม่ได้เปลี่ยน หรือห้องน้ำสกปรก
เป็นต้น และถึงแม้ว่างานของแผนกแม่บ้านส่วนใหญ่จะเป็นงานหลังฉาก การติดต่อกับแขก
ก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่นแขกมาถามว่าที่โรงแรมมีอาหารเจขายหรือไม่ ตอน
แรกน้องๆ อาจจะคิดว่า “มาถามคำถามที่ไม่เห็นเกี่ยวกับงานแม่บ้านซักหน่อย” แต่
ในฐานะพนักงานคนหนึ่งจึงควรจะรู้เรื่องเกี่ยวกับบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่
โรงแรมจัดไว้ให้แขกมากพอที่จะตอบคำถามพื้นๆ ของแขกได้ซึ่งในทางหนึ่งก็เป็นการให้
ความช่วยเหลือแก่แขกด้วย
|
ในส่วน
ของภาคการปฏิบัติงานแบบสวิสเซอร์แลนด์ และภาคบริหารจัดการแบบอเมริกันในทุกๆ ส่วน
อีกด้วย
นอกจากนั้นก็จะเป็นวิชาอื่นๆ เกี่ยวกับการโรงแรมและการท่องเที่ยวที่น้องๆ จะได้เรียน
ค่ะเช่น
ด้านการจัดการ ด้านการท่องเที่ยว ทั้งในส่วนของการปฏิบัติการและการจัดการในองค์กร
ด้านการขนส่ง ด้านการบัญชี การตลาดและการขาย ด้านจิตวิทยาที่ใช้กับงานโรงแรม โปร
แกรมคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับงานโรงแรมและสายการบิน โดยจะมีเนื้อหาวิชาที่เกี่ยวกับด้าน
การโรงแรม และการท่องเที่ยวล้วนๆ ค่ะ
ซึ่งในการเรียนในมหาวิทยาลัยปกติ อาจจะไม่ได้เรียนภาคปฏิบัติอย่างละเอียด
ในหลายๆ วิชาที่กล่าวมาข้างต้นนะค่ะ แต่ก็จะได้เรียนภาคทฤษฎี ในรายวิชาและแผนก
ใกล้เคียงกับที่กล่าวมานี้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยไม่ดีนะค่ะ เพียง
แต่มีแนวความคิดในเรื่องของแนวทางการศึกษาต่างกันเท่านั้น
นอกจากนี้จะเป็นอีกส่วนของการเรียนการสอนที่แตกต่างกับที่อื่น และสำคัญมากๆ
ของสถาบัน I-TIM นั่นก็คือการฝึกงาน ซึ่งโดยปกติ การเรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัย
จะมีการฝึกงานประมาณ 2-3 เดือน ในช่วงก่อนขึ้นปีที่ 4 หรือก่อนที่นักศึกษาจะจบ แต่ในส
ถาบัน I-TIM จะใช้หลักสูตรการโรงแรมแบบสวิส-อเมริกัน ซึ่งการเรียนด้านการโรงแรมและ
การท่องเที่ยวในต่างประเทศ จะมีระยะเวลาการฝึกงานที่ยาวนานกว่าในประเทศไทยมาก
ในแต่ละปีจะฝึกงานอย่างต่ำเป็นเวลา 5 เดือน โดยน้องๆ สามารถเลือกฝึกงานได้
ในแผนกที่มีความถนัด และสนใจ ในโรงแรมระดับ 5 ดาว บริษัทนำเที่ยว หรือสาย
การบิน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ 2 นักศึกษาของสถาบัน I-TIM มีโอกาสฝึกงานในต่างประ
เทศได้ เป็นระยะเวลา 5เดือน-1 ปี ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับน้องๆ ที่สนใจศึกษา
ต่อทางด้านนี้ เพราะนอกจากจะเป็นประสบการณ์ที่ดีในระดับมาตรฐานสากลแล้ว ยังได้รับ
ค่าตอบแทนที่สูงในระหว่างฝึกงานอีกด้วยค่ะ
ซึ่งนักศึกษาจากสถาบัน I-TIM มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานสูง เพราะได้เปรียบใน
เรื่องของภาษา และประสบการณ์ทำงาน ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยที่สำคัญ ในการคัดเลือกพนัก
งานเข้าทำงานของงานสายการโรงแรม และการท่องเที่ยวหากน้องๆ มีคำถามเกี่ยวกับ
การเรียนทางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ในกระทู้
หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
สถาบัน I-TIM
0-2732-0170-3 กด 0 Hotline : 08-555-111-85 http://www.i-tim.ac.th/
e-mail : info@i-tim.ac.th
ยินดีตอบทุกคำถามครับ
การโรงแรมและการท่องเที่ยว
ก้าวสู่สาขาอาชีพการโรงแรมและการท่องเที่ยว เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดธุรกิจ ท่องเที่ยวและโรงแรม ธุรกิจหลักที่ทำรายได้ให้กับประเทศไทย | ||
ไม่ว่าเศรษฐกิจ การเมือง โรคระบาดจะสร้างวิกฤติให้กับประเทศไทยอย่างไร ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวก็ยังเป็นพระเอกที่พึ่งพา ได้เสมอเพราะฉะนั้นตลาดแรงงานในสายงานธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับแรงงานมาอย่างต่อ เนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถด้านภาษา จึงมีสถาบันต่างๆ เปิดทำการเรียนการสอนในศาสตร์ด้านนี้เพื่อสนองตอบตลาด แรงงาน หลายที่ด้วยกัน
ปริญญาตรี ทางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว (Bachelor of Arts Program in Tourism and Hotel) เป็นหนึ่งใน สาขาที่ติดอันดับยอดนิยม และมีทีท่าสดใสยาวไกลไปไนอนาคต เพราะเมืองไทยเราได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับ โลก การผลิตกำลังคนที่มีความรู้ ความสามารถและทักษะในทางด้านการจัดการในธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว จึงช่วยให้ ประเทศเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวกับประเทศอื่นๆ ก่อให้เกิดการสร้างงานในประเทศ และยังเป็นการ รักษามรดกทางการท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืนอีกด้วย การเรียนการสอนในสาขานี้ เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้ง โรงแรม ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจขนส่ง ภัตตา คารร้านอาหาร หลักสูตรจะเน้นสร้างบุคลากรให้มีความรู้และทักษะวิชาชีพด้านการท่องเที่ยว สอนทั้งการบริหารจัดการ ธุรกิจท่องเที่ยว ตลอดจนพัฒนานักศึกษาให้มีทักษะภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษา เกาหลี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีนกลาง จนเกิดความชำนาญ ทั้งทักษะการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน และเพื่อให้สามารถจบออกไปแล้วสามารถทำงานได้จริง จึงมีการสอนและสอบด้วยการปฏิบัติจริงควบคู่ไปกับการ เรียนวิชาด้านบริหารจัดการ ในการให้ประสบการณ์ภายนอกห้องเรียนให้แก่นักศึกษา จะเป็นการให้นักศึกษาได้ฝึกงาน ทั้งในและนอกสถานที่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ เช่น จัดทัวร์ ดูแลห้องพัก จัดห้องจัดเลี้ยง ทำ coaktail จัดงานตามสถานที่ต่างๆ ตามสถานประกอบการจริง เช่น โรงแรม ห้องจัดเลี้ยง สปา ห้องอาหาร หรือบางสถาบันก็มี สถานที่ของตนเองที่เปิดขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนกาสอนไปด้วย |